เราเพิ่งจะเปิดปีเข้ามาได้ไม่เท่าไหร่ ก็จะต้องมาเจอหน้ากับหนังสะพรึงจากญี่ปุ่น เรื่องใหม่ที่คิวฉายรับต้นปี นี่คือ “It’s in the Woods ป่าแปลกแลกตาย” หนังเขย่าขวัญ ที่ได้รับการโหมโรงโปรโมตว่า เป็นการกลับมา ของผู้กำกับหนังสยองชั้นครู “ฮิเดโอะ นากาตะ” ผู้สร้างตำนาน The Ring ได้เฮี้ยนหลอนไปทั่วโลก
แต่ว่าครั้งนี้กลับมา จับเล่นกับตำนานป่า อันน่าสยองของญี่ปุ่น ที่คงจะชวนขนลุกได้ไม่เบา แต่ว่าหารู้ไม่ว่าทั้งหมดทั้งมวล ที่เอ่ยมานั้นเป็นแค่ เรื่องหลอกตลบแตลง
It’s in the Woods ป่าแปลกแลกตาย คือเรื่องราวของ ทานากะ จุนอิจิ เจ้าของฟาร์มในชนบท
วันหนึ่งอดีตภรรยาอาคาอิ ซาวาโกะ รวมทั้งคาซึยะ ลูกชายวัยประถมของเขา ที่อาศัยอยู่ที่โตเกียว ได้มาเยี่ยมเยือน ในขณะนั้นเองก็เกิด ปรากฎการณ์ประหลาดแล้วก็ลึกลับมากมายในบริเวณ ป่า รวมทั้งในเมืองที่จุนอิจิอาศัยอยู่ ก็มีการเสียชีวิต หรือหายตัว ไปอย่างน่าสงสัยของผู้คน เอริ คุณครูประจำชั้นของคาซึยะ และจุนอิจิ จะต้องเข้ามาพัวพัน กับปรากฎการณ์ลึกลับ ก่อนจะได้เจอกับสิ่งที่เรียกว่า “มัน” ซึ่งเป็นจุดเริ่มแรกของความกลัว ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
เอาจริง ๆ จะพูดว่าเป็นการตลบแตลง ก็อาจจะใช้คำแรงไปสักหน่อย แค่เพียงว่าหนังมีการประชาสัมพันธ์ และใส่ลูกเล่นในการเรียกร้องความสนใจ กับผู้ชมได้ระดับที่น่าทึ่ง ด้วยเหตุว่าเชื่อว่าหลาย ๆ
น่าคง มีความคิดว่านี่จะเป็นหนังผีเฮี้ยน เกี่ยวกับดวงวิญญาณ อาฆาต ที่สิงสูอยู่ในป่า และพยายาม จะมาเอาชีวิตคน ตามธรรมเนียนหนังผีญี่ปุ้น แต่ว่าปรากฏว่า เนื้อแท้ข้างในอันที่จริงแล้ว กลับไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้เลย ด้วยเหตุว่าหนังได้ฉีก ไปอีกทางในรูปแบบที่เกริ่นบอก เอาไว้ที่หน้าหนัง
ผู้กำกับ ฮิเดโอะ นากาตะ ก็ยังคงใส่ลีลางานสร้างในรูปแบบ ฉบับของแกเอาไว้ตามสไตล์ It’s in the Woods บางทีอาจยังไม่ใช่ผลงาน ที่โดดเด่นรวมทั้งดีเด่นสักเท่าไหร่นัก แต่มันก็นับได้ว่าเป็น ชิ้นงานที่ถ่ายทอดออกมา ได้สาแก่ใจเขาได้อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นที่ต้องการจะเล่า แล้วก็ปมที่ต้องการจะแตะต้อง นับว่าใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ บนพื้นฐานรวมทั้งกิมมิกตามมาตรฐาน แบบฉบับญี่ปุ่นทั่วไป ที่บอกตรง ๆ ว่ามิได้มีอะไรแปลกใหม่นัก
การเล่าเรื่องรวมทั้งบทของหนัง ยังค่อนข้างจะขรุขระอยู่สักนิด
เนื่องจากดูเหมือนว่าหนังจะมี 2 แกนในการ ดำเนินเล่าไปควบคู่กัน แต่ว่าก็ยังไม่สามารถทำได้ถึงขนาด ประสบความสำเร็จไปด้วยกันทั้งคู่
อีกทั้งพาร์ทเรื่องลี้ลับและก็พาร์ทปมครอบครัวของตัวละคร ในท้ายที่สุดมันก็ทำหน้าที่ เล่าออกมาได้แค่ผิวเผิน ไร้ซึ่งมิติใด ๆ แล้วก็เต็มไปด้วยความแห้งแล้ง อย่างน่าเสียดาย ที่องค์ประกอบ 2 อย่าง ที่เหมือนจะไปด้วยกันได้ แต่ก็ยังล้มเหลวไป ได้ไม่สุดทางอยู่ดี
It’s in the Woods ยังคงเต็มไปด้วยพล็อตซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่อาจจไม่ได้มีความว้าวสักเท่าไหร่ บทหนังที่ยังไร้ซึ้งน้ำหนัก ที่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ เป็นการตั้งประเด็น ที่ยังขาดความน่าเชื่อถือ ก็เลยไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ที่หนังยิ่งเล่าไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งน่าขบขัน แทนที่จะเป็นความน่ากลัว เนื่องจากผู้ชมเอง ก็คงมีแนวคิดแบบเดียวกับอีกหลาย ๆ ตัวละครในเรื่องนี้ ที่ยังไม่ให้ความน่าเชื่อถือที่เพียงพอ ที่จะสนับสนุนแนวคิดนี้ของหนัง
การวางแบบคาแรกเตอร์ตัวละครของ It’s in the Woods ก็ค่อนข้างจะเต็มไปด้วย ตัวละครที่น่าหงุดหงิดแล้วก็รำคาญด้วยการกระทำที่น่าเข้าไป จับเขย่าตัวเรียกสติอยู่หลายครั้ง กลายเป็นว่าตัวละครเหล่านี้จะช่วย ขับเคลื่อนทำให้หนังดูสนุกขึ้น กลับกลายเป็นความรำคาญใจ ให้กับผู้ชมแทนอยู่เสมอ ทั้งเรื่อง แล้วก็ล้วนแต่เป็นคาแรกเตอร์ ที่ดาดดื่น-แห้งแล้งอย่างไม่มีมิติอะไรเลย เป็นความคลีเช่ ที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จ แบบญี่ปุ่น ถึงแม้ว่านักแสดงแต่ละคนจะเล่นได้ แต่บทหนังค่อนข้างทำให้หงุดหงิดไม่น้อย
มีอีกอย่างที่ทำให้เกิดความรู้สึกอึ้งไปกับ It’s in the Woods ก็ถือเทคนิคพิเศษ
แล้วก็องค์ประกอบงานสร้าง ด้านโปรดักชั่นต่าง ๆ ที่เหมือนจะไม่ค่อยลงทุนเท่าไหร่ หลายฉากหลายซีนก็วน ๆ ซ้ำไปอยู่แบบนั้น อยู่ในจุดที่เพลย์เซฟไปตลอดทั้งเรื่อง ทั้งยังมากับงานออกแบบฉากซีจี ที่ทำให้ขนลุกขนพอง
ไม่ใช่ว่าทำออกมาน่าขนลุก แต่ว่าหนังทำออกมา ได้น่าผิดหวังในจุดนี้ อย่างไม่เชื่อสายต่อว่าผู้กำกับจะปล่อย ผ่านออกมาได้ในหนังญี่ปุ่น ได้ชื่อว่าค่อนข้างจะพัฒนางานซีจี ด้านนี้ไปได้ไกลแล้วด้วยเหมือนกัน
สรุปแล้วนั้น It’s in the Woods บางทีอาจจะไม่ได้เป็นหนังที่ดีงาม แล้วก็สมบูรณ์สักเท่าไหร่ หนังเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดเยอะแยะเต็มไปหมด เรื่องต่าง ๆ ยังขาดเหตุผลแล้วก็ความน่าเชื่อถืออยู่มาก
พลอยทำให้เนื้อหนังเป็น ดูตลกสุดขั้วไปสักหน่อย แทนที่จะขายความหลอน แล้วก็น่าสะพรึงกลัว กลับหักมุมไปอีกแบบแทน ซ้ำยังเต็มไปด้วยบท รวมทั้งการสร้างตัวละคร ที่กวนอารมณ์คนดูอยู่เรื่อย ๆ จนแทบจะไม่มีแรงจูงใจ ที่ต้องการจะเอาใจช่วยใคร ลยสักทางเดียว
แต่จะว่าแล้วนั้น It’s in the Woods ก็ถือว่าทำเซอร์ไพรส์ ให้กับผู้ชมได้อยู่ ในด้านผลลัพธ์ที่แตกต่างกันระหว่างตอนเข้าโรงไปดู กับตอนออกมาจากโรง หลังจากที่ได้ดู เนื่องจากหน้าหนังเรื่องนี้
ได้ทำให้ซ่อนงำเราเอาไว้ ได้อย่างแยบยล จริง ๆ องค์ประกอบของหนังอาจมิได้หลอกเรา เพียงแต่ว่าเราอาจจะไม่ได้ ทันสังเกตและไตร่ตรองมันให้ดี ๆ เพราะว่าความจริง มันก็บอกใบ้ ให้ในหลายจุด กับการโปรโมตหนังเรื่องนี้ มาก่อนแล้ว