Wednesday, 29 March 2023

“BMW i Vision Dee” ต้นแบบซีรี่ย์ 3 ขุมพลังไฟฟ้าพร้อมตัวถังเปลี่ยนสีได้ถึง 32 สี

BMW ซีรี่ย์3 เผยโฉมรถต้นแบบ BMW i Vision Dee ครั้งแรกในโลกที่งาน Consumer Electronics Show (CES) 2023 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่า เป็นเวอร์ชันต้นแบบของ “ซีรี่ย์ 3” เจเนอเรชันต่อไป ที่มาพร้อม ขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100%

BMW i Vision Dee เป็นรถยนต์ซีดาน ขนาดกลาง (Mid-size) ที่มีรูปลักษณ์อันล้ำสมัย โดยที่ Dee ย่อมาจากคำว่า “Digital Emotional Experience” ที่เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคน และรถยนต์ให้แน่นแฟ้นเพิ่มมากขึ้น

ชูไฮไลต์ด้วยเทคโนโลยี BMW Head-Up-Display ที่สามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ ทอดยาวตลอด ความกว้างของกระจกบังลมหน้า แทนการใช้จอปกติ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กล่าวว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะถูกนำไปติดตั้ง กับรถโปรดักชัน ที่ใช้แพล็ตฟอร์ม NEUE KLASSE สำหรับวางจำหน่ายจริง ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป

BMW ซีรี่ย์3

BMW เปิดตัว

BMW ซีรี่ย์3 เทคโนโลยีแสดงข้อมูลแบบ HUD

ดังกล่าวปฏิบัติการร่วมกับ ระบบสั่งงานแบบ BMW Mixed Reality Slider ที่อาศัยเซ็นเซอร์ บนแผงคอนโซล เพื่อใช้สำหรับในการควบคุมข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ HUD ผ่านการสัมผัสด้วยปลายนิ้ว ไม่ว่าจะ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่, คอนเทนท์ด้านระบบสื่อสาร และเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม หรือ Augmented Reality เป็นต้น

นอกเหนือจากนี้ ผู้ขับขี่และก็ผู้โดยสาร ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ แบบดิจิทัลของ BMW i Vision Dee ได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ผ่านส่วนประกอบทั้งด้านกราฟิก, ไฟส่องสว่าง แล้วก็เสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ

ดังเช่น ไฟหน้าและกระจังหน้าไตคู่แบบปิดทึบ ถูกพัฒนาให้ มีลักษณะเป็น “Phygital” (เกิดขึ้นจากการรวมกันของคำว่า Physical แล้วก็ Digital) ที่มีลักษณะคล้ายหน้าจอ สำหรับตอบโต้กับมนุษย์ หรือแสดงอารมณ์ในขณะนั้นได้

ตัวถังข้างนอกของ BMW i Vision Dee ยังสามารถเปลี่ยนสีได้เองโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยเทคโนโลยี E Ink คล้ายกับที่พบใน BMW iX Flow ซึ่งเคยเปิดตัวในงาน CES 2022 คราวก่อน แต่ว่าครั้งนี้บีเอ็มดับเบิลยู ได้เพิ่มระดับความสามารถให้ปรับเปลี่ยน สีตัวถังได้ถึง 32 สี

บนพื้นที่ที่ถูกแบ่ง แยกออกเป็นทั้งหมด 240 ส่วน (จากเดิมที่มีเฉพาะสีดำและสีขาว ซึ่งสามารถผสมกัน กลายเป็นสีเทาได้อีกหลายเฉด) ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ ตามที่ใจต้องการในเวลาเพียงแค่ชั่วอึดใจแค่นั้น

BMW 2025

ด้านในห้องโดยสารของรถยนต์คันนี้

ยังถูกดีไซน์ให้ลดการใช้ วัสดุที่ไม่มีความจำเป็น พร้อมกันไปกับการลด จำนวนปุ่มควบคุม แล้วก็ตัดหน้าจอแบบเดิมออกไป ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู ระบุว่าจะช่วยทำให้คนขับขี่ สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ ดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งมาพร้อมพวงมาลัย ออกแบบแปลกตา ที่ติดตั้งก้านแนวตั้ง บริเวณกึ่งกลางของพวงมาลัย

ก่อกำเนิดจุดสัมผัส ที่จะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อคนขับขี่ใช้ปลายนิ้ว สัมผัสเพียงแค่นั้น ทั้งนี้การออกแบบดังกล่าว ยังช่วยสนับสนุนแนวคิด “มืออยู่บนพวงมาลัย, ตาจ้องมองไปยังถนน” เพื่อความปลอดภัยสำหรับการขับขี่สูงสุดนั่นเอง

งานวิศวกรรมผลิตขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ พร้อมแบตเตอรี่ ที่มีความหนาแน่นขึ้น 20% ชาร์จเร็วขึ้น 30% และก็วิ่งไกลขึ้น 30% ยิ่งไปกว่านี้ในเวอร์ชั่น M ยังมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ถึง 4 ลูกเพื่อรองรับ แบตเตอรี่แบบ Solid State อีกด้วย

แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ รถยนต์ต้นแบบเท่านั้น แต่ว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่รายละเอียดบางส่วน ที่จะประยุกต์ใช้ในรถยนต์ขายจริง ตามแผนการ NEUE KLASSE ทั้งกระจกหน้าต่าง แบบใหม่ จะประยุกต์ใช้ใน i3 รุ่นถัดไป, งานวิศวกรรมที่จะเริ่ม ใช้ใน 3-Series Sedan รวมทั้ง iX3 โฉมใหม่ ได้มีแผนที่ จะผลิตในโรงงานใหม่ Debrecent ประเทศฮังการี ในทศวรรษนี้ (ราว ๆ ปี 2030) ตามมาด้วยในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีในปีถัดไป

ทั้งนี้ มีความน่าจะเป็นสูงว่า BMW i Vision Dee จะถูกต่อยอดกลายเป็น 3 Series ขุมพลังไฟฟ้า 100% ในอนาคต ซึ่งจะถูกเปิดตัวในปี 2025 ที่จะถึงนี้

BMW ตัวใหม่

News ข่าวรถยนต์รถใหม่เปิดตัว BMW i Vision Dee รถยนต์ต้นแบบไฟฟ้า แห่งอนาคตในงาน CES 2023

BMW เปิดตัวรถต้นแบบ BMW i Vision (BMW i Digital Emotional Interaction Concept Car (Dee)) ในงานมหกรรมรถยนต์ International Consumer Electronics Show (CES) ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ระหว่างวันที่ 5 – 8 เดือนมกราคม 2023

BMW i Vision Dee เปิดตัวครั้งแรกในโลก โดยใช้แนวคิดการปฏิสัมพันธ์ ทางอารมณ์แบบดิจิทัล BMW i เป็น Digital Emotional Experience สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมทั้งยังแสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของ BMW Group ที่มุ่งมั่นการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า แห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด “less is more”

BMWiVisionDee Concept อีกหนึ่งสีสันของบูธ BMW ข้างในงาน CES 2023 ตัวรถยนต์ได้รับการออกแบบ ในรูปทรงซีดานกล่อง ส่วนประกอบการออกแบบ ที่โดดเด่นหลายอย่างของ BMW ที่ได้รับการปรับแต่ง

รวมทั้งกระจังหน้ารูปไต ไฟหน้าทรงกลมคู่ และก็รอยหยักแบบ Hofmeister ล้ออัลลอยสีเขียวขนาดใหญ่ ไฟท้สยแบบ LED ดิจิตอล กระจกรอบคันขนาดใหญ่ สร้างมุมมองได้กว้างขึ้น ไร้มือจับประตูภายนอก

BMW Group เปิดตัวเทคโนโลยี E Ink หรือการเปลี่ยนโทน สีบนผิวตัวถัง โดยสามารถสร้างสี ได้มากถึง 32 สีผ่านฟิล์ม กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมทั้งตัว รถข้างนอก

ปรัชญาการออกแบบ ที่เรียบง่ายนี้ ยังคงอยู่ในห้องโดยสาร เน้นการใช้งานมินิมอล แต่ว่าจัดเต็มด้วยเทคโนโลยี BMW ได้นำระบบ Head-up Display ขั้นสูงของ BMW มาใช้ พร้อม BMW Mixed Reality Slider ซึ่งสามารถฉายเนื้อหา ให้ครอบคลุมความกว้างทั้งหมด ของกระจกบังลม

สามารถแสดงข้อมูลบนพื้นผิวที่ใหญ่ เท่าที่จะเป็นไปได้ กระจกบังลมหน้าจะทำหน้าที่ เป็นอินเทอร์เฟซดิจิทัลเดียว สำหรับเพื่อการตอบโต้กับทุกคนด้านในห้องโดยสาร

Adrian van Hooydonk หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BMW Group บอกว่า “BMW i Vision Dee ชี้ให้เห็นการออกแบบดิจิทัล ที่เข้ากับชีวิตประจำวัน และเป็นเพื่อนร่วมทาง ที่ไว้ใจได้ พร้อมมอบประสบการณ์ ที่คุ้มค่า ทำให้มนุษย์และก็เครื่องจักรใกล้ชิดกันมากเพิ่มขึ้น